top of page
Featured Posts

Review: The King in Love

The King in Love หรือ The King Loves เป็นซีรีย์เกาหลีของช่อง MBC ที่นำเสนอเรื่องราวของ 3 ตัวละครหลักได้แก่ องค์รัชทายาท วัง วอน, เพื่อนผู้จงรักภักดี วัง ริน และบุตรีของเสนาบดีคลัง อึน ซาน ซึ่งจากชื่อคนส่วนใหญ่ก็ล้วนพาคิดกันไปว่ามันจะเป็นเรื่องราวของรักสามเส้า มันเป็นความจริงอยู่ประมาณ...ครึ่งหนึ่งเท่านั้น

เรื่องราวของ The King in Love เริ่มต้นขึ้นด้วยองค์รัชทายาทวัง วอน ออกเดินทางไปกับเพื่อนสนิท วัง ริน เพื่อไปพบกับขุนนางที่ถูกขับไล่ออกจากวังหลวงไปอยู่เมืองอันห่างไกลและเปิดสำนักสอนวิชาต่างๆ ที่นั่นพวกเขาได้เจอกับหญิงสาวนิสัยกะโปโลอย่างอึน ซาน พูดๆไปแล้วก็เหมือนเส้นเรื่องความรักละครเกาหลีทั่วไปที่นางเอกมักจะไม่ได้เป็นพวกเรียบร้อยอ่อนหวาน (แต่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเชื่อผู้เขียนสิ)

แม้ว่าจะเริ่มต้นจะเป็นเหมือนกับซีรีย์รักใสๆสไตล์ย้อนยุคเบาๆ แต่เนื้อเรื่องกลับแฝงไว้ด้วยการเมืองที่เข้มข้นแทบทุกตอน แต่ก็ยังไม่ยอมทิ้งเส้นความรักไป สิ่งที่น่าสนใจของเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เส้นของการเมืองที่เราลุ้นไปกับตัวละครให้คลี่คลายแก้ปัญหาได้อย่างชาญฉลาด เรายังลุ้นไปด้วยว่าตกลงแล้วนางเอกอย่าง อึน ซาน รักใครกันแน่ระหว่าง วัง วอน กับ วัง ริน ซึ่งผู้เขียนดูซีรีย์เรื่องนี้ตอนที่ยังออกอากาศที่เกาหลีแบบยิงสด ทำให้เห็นปฏิกิริยาของแฟนๆซีรีย์เรื่องนี้ที่ถึงกับแบ่งแยกเป็นสองทีม ไม่ต่างอะไรจากตอนมีกระแสหนัง Twilight ที่มีทีม Edward กับทีม Jacob เลย

ทว่าแกนกลางของเรื่องกลับไม่ใช่เรื่องความรักอย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้ในช่วงต้น เนื้อเรื่องกว่า 40 ตอน(ตอนละ 30 นาที) ของ The King in Love นั้นหมุนเวียนอยู่กับตัวละครหลักอย่างวัง วอน และความสัมพันธ์ของเขาที่มีกับอำนาจกับคนรอบตัวต่างหาก โดยบทของซีรีย์นั้นพยายามแสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงในการเติบโตท่ามกลางสภาพของคนที่มีอำนาจมาก จนมองเห็นทุกอย่างเป็นของตัวเองได้อย่างง่ายได้และมีความคิดที่จะบังคับให้ทุกสิ่งเป็นไปอย่างใจของเขา

แม้ว่าวัง วอน โดยเนื้อแท้แล้วเป็นชายหนุ่มที่มีอัธยาศัยดีและมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะได้ขึ้นเป็นพระราชาของโครยอ (อาณาจักรเกาหลีก่อนยุคโชซอน) แต่เขาก็มีจุดอ่อนเป็นสายเลือดของเขาเอง เพราะเขาเป็นรัชทายาทที่เกิดจากมเหสีที่มาจากเมืองจีน ซึ่งทางโครยอนั้นมองเขาเป็นพวกเลือดผสม (ฮั่นแน่ คิดถึงแฮร์รี่ พอตเตอร์เหมือนผู้เขียนเลยล่ะสิ) นี่เองที่ทำให้เกิดเหตุไม่สงบขึ้นในวังหลวง เพราะมีคนจ้องที่จะปลดเขาอยู่เสมอ แต่ที่ทำไม่ได้อย่างออกหน้าออกตานั้นก็เพราะว่าข้างกายของวัง วอน มีวัง ริน อยู่ด้วย

เมื่อพูดถึงวัง รินแล้วก็ต้องพูดถึงความไม่เห็นแก่ตัว แม้ว่าจะเกิดในชนชั้นสูงของโครยอ แต่วัง ริน กลับเป็นคนที่คิดถึงตัวเองน้อยมาก จนในบางคราวเราก็ไม่แน่ใจว่าเขาเป็นพระเอกหรือพระรองกันแน่ จะพูดให้ถูกซีรีย์เรื่องนี้เหมือนจะไม่มีพระเอก - พระรอง แต่มีเพียงตัวละครหลักเสียมากกว่า สาเหตุที่ทำให้วัง ริน เป็นคนที่คิดถึงคนอื่นก่อนเสมอก็คงไม่พ้นการเติบโตมาในครอบครัวที่อยู่ในจุดอันตรายของการเมืองในโครยอ ด้วยเพราะเป็นตระกูลที่มีเลือดโครยอบริสุทธิ์และมีสิทธิ์ที่จะได้ขึ้นครองราชย์ทำให้ต้องสงบเสงียมเจียมตัวเป็นพิเศษ แม้ว่าหลักการทางความคิดนี้จะย้อนแย้งกับความคิดของตัวละครอย่าง วัง จอน ที่เป็นพี่ชายของรินก็ตาม แต่ด้วยพื้นฐานทางจิตใจของวัง ริน ที่มักหวังดีต่อ วัง วอน เสมอ ทำให้เราในฐานะคนดูรู้สึกเอ็นดูและสงสารรินไม่ได้ โดยเฉพาะคำพูดประจำตัวของเขาอย่าง “ที่ข้ามักอยู่หลังท่านไปหนึ่งก้าวเสมอนั้น ไม่ใช่เพราะข้าเดินช้ากว่าท่าน เพียงแต่ข้าพึงพอใจที่เดินข้ากว่าท่านเพียงหนึ่งก้าว เพื่อจะได้มองเฝ้ามองท่านจากเบื้องหลัง”

ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของวัง วอน และวัง ริน นั้นยากที่จะทำลายไปได้ จนกระทั่งตัวแปรสำคัญอย่าง อึน ซาน ปรากฏตัวขึ้นและเริ่มสร้างแรงกระเพื่อมในความสัมพันธ์ของ วัง วอน และ วัง ริน ไม่ใช่เพราะว่าผู้ชายสองคนนี้ต่างตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกันและต้องการแย่งมาเพื่อให้เป็นของตัวเอง บทของเรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นอย่างน่าสนใจ ในมุมมองและลักษณะนิสัยของคนทั้งสาม สะท้อนมุมมองความรักที่แตกต่าง อีกทั้งยังมีการกระทำที่ทำให้เรื่องราวพลิกไปมาได้อย่างเหนือความคาดหมาย

เหตุการณ์ต่างๆในเรื่องจะทำให้เราเอาใจช่วย วัง วอน อยู่เสมอ เพราะเราจะรู้สึกว่าเขาถูกคนกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรมจากสิ่งที่เขาเกิดมาก็เป็นแล้ว แต่ในขณะเดียวกันยิ่งเราเห็นเขาพยายามปกป้อง “มิตรภาพ” ที่เขามีกับรินและซาน เราก็ยิ่งเห็นความต้องการอำนาจของเขาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นน่าเป็นห่วงและความคิดที่ว่าเขาจะกลายเป็นทรราชย์ ดูเหมือนจะไม่ไกลเกินจินตนาการแม้แต่น้อย ทั้งนี้บทไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าเขาเห็นแก่ตัว แต่ทำให้เรารู้สึกสงสารเขาและสะท้อนถึงสภาพแวดล้อมที่เขาถูกเลี้ยงดูขึ้นมา มันทำให้เราย้อนดูตัวเองอยู่ไม่น้อย

ถึงแม้ว่าบทของซีรีย์เรื่องนี้จะมีปัญหาอยู่บ้างในบางประเด็น แต่มันก็ไม่เคยละทิ้งแก่นของมันไปแม้แต่ครั้งเดียว ในทุกๆตอนเราจะเห็นพัฒนาการของวัง วอนและวัง ริน อยู่เสมอ ทุกอย่างที่พวกเขาทำและตัดสินใจมันมีผลต่อเรื่องทั้งสิ้น เช่นเดียวกับการตัดสินใจของอึน ซาน ซึ่งถึงแม้จะตกอยู่ในสภาพตกที่นั่งลำบาก แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อึน ซาน นั้นฉลาดสมกับเป็นบุตรีของเสนาบดีคลังของโครยอที่มีทรัพย์สินและเครือข่ายทางการค้า เธอมีปัญญาที่เฉียบแหลม แม้จะมาพร้อมกับการแสดงออกอันแสนทะเล้นของเธอก็ตาม ในคราบของคุณหนูอึน ซานนั้น เธอคือสาวงามที่หาตัวจับได้ยาก แต่ในคราบของ โซฮวา หญิงสาวที่เป็นลูกศิษย์ของขุนนางหัวกะทิคนหนึ่งของโครยอนั้น เธอกลับมีทักษะการต่อสู้ที่เอาตัวรอดได้ไม่ยากและมีความว่องไว เรียกได้ว่าสามารถทัดเทียมกับวัง วอนและวัง ริน ได้อย่างไม่อายเลยทีเดียว

เคมีของตัวละครทั้งสามนั้นถือว่าเข้าขั้น เพราะทุกครั้งที่พวกเขาโลดแล่นอยู่บนหน้าจอ มันทำให้เรารู้สึกได้ว่าทั้งสามคนนั้นรักกันมากเพียงใดในฐานะเพื่อนและถึงแม้จะมีความรู้สึกมากกว่าเพื่อนอยู่ก็ไม่ได้มีใครอยากจะให้เกิดรักสามเส้าขึ้น เพราะต้องการที่จะปกป้องมิตรภาพนี้เอาไว้ โดยเฉพาะอึน ซาน โดยมากหากพูดถึงเรื่องรักสามเส้า มันก็จะมักจะมีความเศร้าตามมาเป็นธรรมดา แต่เรื่องนี้กลับให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติที่คนเราอาจมีความรู้สึกชอบพอคนมากกว่าหนึ่งคนในเวลาเดียวกันได้และมันก็ไม่เชิงผิดเสียทีเดียว มันเป็นเรื่องที่น่าหนักใจมากกว่าหากความรู้สึก “รัก” ของเรากลับทำลายมิตรภาพที่งดงาม

โดยรวมแล้วซีรีย์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่พยายามแสดงให้เห็นถึงสภาพการเมืองที่แสนกดดันของการเป็นรัชทายาทและความรับผิดชอบอันหนักอึ้งที่ได้มาจากผลพวงของอำนาจ มันยังสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่าง “ความรัก” และ “อำนาจ” ของสองสิ่งที่เมื่ออยู่ด้วยกันแล้วอาจทำให้คนดีคนหนึ่งกลายเป็นทรราชย์ได้ อีกทั้งมันยังแสดงให้เห็นว่ายิ่งอยู่สูงก็ยิ่งหนาว การมีอำนาจล้นฟ้าที่มาพร้อมกับหัวโขนย่อมไม่ได้มาพร้อมความบริบูรณ์ คนเราได้อย่างหนึ่งมักเสียอย่างหนึ่งอยู่เสมอ ไม่มีใครได้รับความสมบูรณ์แบบไปได้ แม้ว่าคุณจะเป็นถึงพระราชาของอาณาจักรก็ตามที

ท้ายที่สุดแล้วซีรีย์เรื่องนี้สอนให้เห็นถึงคุณค่าและความหมายของคำว่า “ความรัก” สมกับชื่อเรื่องว่า “The King in Love” ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

คะแนน: 7/10

Recent Posts
Archive
Search By Tags
No tags yet.
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page