top of page
Featured Posts

จะทำยังไงให้ มั่นใจมาจาก INNER

  • Momo Thorys
  • Oct 6, 2017
  • 1 min read

ในวงการบันเทิง เราจะได้ยินบ่อยๆ คือ คำว่า INNER (อินเนอร์) นางแบบคนนี้อินเนอร์แรงมาก ดาราคนนี้ไม่มีอินเนอร์เลย ฯลฯ ทำให้เราสงสัยว่า แล้วไอ้ inner นี่มันคืออะไร แต่ต้องสร้างยังไง(ฟะ)? ทำไมคนบางคนดูมั่นใจก็จริง แต่ไม่มีอินเนอร์เลย บางคนดูธรรมดาๆแต่ว่า อินเนอร์เต็มเวอร์!! อินเนอร์เยอะ มันคืออะไรกัน? Inner ที่ว่า ก็คือ ความมั่นใจที่แท้จริงจากส่วนลึกนั้นเอง ไม่ใช่ความมั่นใจปลอมๆ ที่สร้างขึ้นมาในวินาทีนั้น ความมั่นใจที่มาจากรากลึก เป็นความมั่นใจที่ไม่มี ข้อสงสัย (doubt) ปราศจากความลังเล เป็นความมั่นใจที่ถูกสะสม บ่มเพาะจนแข็งแกร่ง จากการใส่ความคิดดีๆ พลังงานที่ดีและถูกต้อง

Inner ไม่ใช่การหลอกตัวเอง หลงตัวเอง เพราะ สิ่งนั้นจะมาจาก ความคิดลบต่อคนอื่น แต่ความมั่นใจจากอินเนอร์ มาจากความคิดบวกต่อตัวเอง

มาดูกันดีกว่า ว่าต้องทำยังไงให้มั่นใจมาจาก INNER

1. รายล้อมตัวเอง ด้วย Input ที่สร้างความมั่นใจ

เลิกคุย (หรือลดการคุย) กับคนที่ทำให้คุณเสียความมั่นใจ คอยหาหนังสือเสริมสร้างพลังใจ บทความเสริมความมั่นใจมาอ่านบ่อยๆ เพราะคนเราลืมข้อมูลใหม่ๆที่เราได้มาทุกวัน เพราะฉะนั้น มันสำคัญที่ต้องเติม พลังบวกเสมอๆ ...เปรียบเทียบ กับการที่เรามีต้นไม้อยู่หน้าบ้าน ใบไม้จะร่วงทุกวัน และ เราก็ต้องทำหน้าที่กวาดใบไม้ออกทุกวัน เพราะถ้าเราปล่อยทิ้งไว้นานๆ ใบไม้ก็จะท่วมบ้าน การที่ใบไม้ร่วง เปรียบเทียบได้กับ พลังงานลบจากโลก จากผู้คน และการที่เรากวาดใบไม้ คือเราเลือกพลังงานดีๆ สิ่งดีๆให้กับตนเอง คอยดูแลภายในของเราให้สะอาด เป็นบ้านที่ปราศจากพลังงานลบได้

2. เลิกคิดแทนคนอื่น

มนุษย์ทุกคนห่วงว่าสังคมจะมองเรายังไงอยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่กับมากหรือน้อย คนที่มีความมั่นใจจะไม่คิดแทนคนอื่น คนที่มัวห่วงว่าคนอื่นจะมองยังไง จะเสียความมั่นใจขึ้นไปเท่านั้น “ถ้าเราทำแบบนี้ คนจะมองเราแบบนี้นะ เราเลยไม่ทำดีกว่า” สิ่งนี้มาจากความกลัวสิ่งที่เราสร้างขึ้นเอง ความจริงแล้วก็คือ เราไม่มีทางรู้ได้จริงๆ ว่า ใครคิดยังไงกับเรา แต่เราก็มักจะคิดแทนคนอื่นตลอด ... ยกตัวอย่างเช่น วันนี้ดันใส่เสื้อที่เป็นรูตรงจั๊กแร้ออกมานอกบ้าน ตอนแรกไม่ทันสังเกต ก็ไม่มีอะไร แต่พอเห็นเท่านั้นแหละ ไม่มั่นใจทันที พอเดินไปก็ต้องมองรอบๆ คิดว่าทุกคนต้องสังเกตุแน่ๆ ถ้าเดินแกว่งแขน ก็เลยหนีบจั๊กแร้ และ เร่งเดินหนีผู้คนไป ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ยากมาก ที่ใครจะมานั่งส่องดูจั๊กแร้เวลาคนอื่นเดิน ต่างคนก็ต่างมีธุระของตัวเอง ไม่มีใครสนใจอะไร ... อยากให้คุณมองว่า เรื่องราวที่คุณกังวลว่าคนจะคิดยังไงกับคุณ 80% มันอยู่ในหัวของคุณเองทั้งนั้นแหละ ให้นึกถึงเรื่องจั๊กแร้เป็นรู ว่าแท้จริงแล้ว มันซ่อนอยู่ใต้แขนเราเอง ถ้าเราแค่ไม่ไปใส่ใจมัน ทั้งเราเองและคนอื่น ก็ไม่อาจมองเห็นมันได้เลย

3. ช่างน้ำหนัก

ลองคิดว่า ถ้าต้องมีชีวิตแบบคนไม่มั่นใจ ขี้กลัว ขี้ระแวงไปจนตาย มันจะคุ้มมั๊ย? เพราะถ้าไม่ เผชิญหน้ากับความกลัว ไม่แก้อุปนิสัยไม่มั่นใจแล้ว จะสามารถใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ได้หรือ? แท้จริงแล้ว เรื่อง รูปลักษณ์ภายนอก เป็นเรื่องที่ไม่ใช้ตัววัดความมั่นใจ เพราะ ความมั่นใจ เป็นเรื่องของ “จิตใจ” ผู้คนส่วนมาก จะนับถือและยอมคนที่มีความมั่นใจสูงกว่าตนเอง สาเหตุเพราะอะไร? ...เพราะ เราทุกคนมีความกลัว ความกลัว สร้างกำแพงให้เราไม่ได้ ใช้ชีวิตแบบที่ตนต้องการ เป็นคนแบบที่ตัวเองต้องการ ถ้าคิดว่า การฝึกความมั่นใจ มันคุ้มค่าแก่การพยายาม ก็เริ่มต้นเลย!

4. ใช้เทคนิคความเชื่อ

ทั้งทางจิตวิทยา และ วิทยาศาสตร์ ว่า การจะเป็นอะไรสักอย่าง เราต้อง มีความเชื่อ เชื่อในสิ่งนั้นเสียก่อน เมื่อตื่นเช้าขึ้นมา ให้มองตัวเองในกระจก บอกว่า “ฉันจะเป็นคนที่มั่นใจ” และ ก่อนนอนก็พูดกับตัวเองอีกรอบ อาจดูเหมือนตลกและไม่จำเป็น แต่พิสูจน์กันมาแล้วว่าเป็นวิธีที่ได้ผลจริงสุดๆทางจิตวิทยา เพราะเราได้ปลูกเมล็ดความเชื่อนี้ไว้ในหัวเรา ตลอดทั้งวัน ...ที่เหลือคือ แค่รอมันเติบโต เพราะการตอกย้ำ จะทำให้คุณเกิดความมั่นใจขึ้นมาอย่างแท้จริง

5. หัดจ้องตาคนให้นานขึ้น

การขาดความมั่นใจส่วนมาก เป็นผลมาจาก การไม่ชอบเผชิญหน้ากับคน กลัวการแสดงออก กลัว human interaction วิธีแก้ขั้นต้นสุด คือ หัดจ้องตาคนให้นานขึ้นกว่าปกติ ถ้าเป็นคนชอบหลบสายตา (แต่ไม่ใช่จ้องเขม็งแบบผีญี่ปุ่น) การจ้องตาคนเวลาพูด เป็น ลักษณะของคนที่มีความมั่นใจ การแสดงออกถึงความมั่นใจ จะทำให้คนที่คุณจ้องตาอยู่รับรู้ได้ และ มันจะมีผลต่อตัวคุณเองเป็นอย่างมาก

6. เข้าใจว่า การสร้างความมั่นใจ เป็นเรื่องต้องใช้เวลา ไม่ใช่ได้มาทันที

ถ้าคุณได้เริ่มฝึกฝนความมั่นใจแล้ว และ มันก็ยังไม่เห็นผลทันที คุณยังประหม่าอยู่ อย่าเพิ่งเลิกล้ม แน่นอนว่า มันต้องมีวันที่คุณไม่มั่นใจ และมั่นใจ สลับกันบ้าง แต่สิ่งที่สำคัณคือ คุณกำลังฝึกฝนอยู่ ...น้ำที่หยดเพียงวันละหยด วันหนึ่งก็เต็มถังได้ ถ้าคุณทำไปเรื่อยๆ จะสังเกตความเปลี่ยนแปลงในตัวเอง และ คนรอบข้างจะถามคุณเอง ถึงจุดนั้น คุณก็ประเมินได้เลยว่า คุณทำสำเร็จแล้ว!!


Comments


Recent Posts
Archive
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
  • Facebook - Black Circle
  • Instagram - Black Circle
Follow us

พูดคุย และ แชร์เรื่องราว

เพื่อเป็นส่วนหนึ่งกับเรา

Daily Dose of Inspirations!

Thanks! Message sent.

bottom of page